ปวดหลัง ร้าวลงขา

Facebook
Twitter

บทความเพิ่มเติม

ปวดหลัง

“ปวดหลังร้าวลงขา” เป็นเรื่องที่น่าสนใจและสำคัญมากในการดูแลสุขภาพ ปวดหลังร้าวลงขาเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีการใช้งานกล้ามเนื้อหลัง รวมถึงผู้ที่นั่งทำงานหนักหรือยืนนาน เป็นต้น หากไม่ได้รับการดูแลหรือรักษาอย่างถูกต้อง อาการนี้อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีของผู้ป่วยได้

ในบทความนี้เราจะพูดถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพหลัง รวมถึงสาเหตุและอาการที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหลังร้าวลงขา และการรักษาอย่างถูกต้องเพื่อลดอาการปวดและป้องกันการกลับมาของอาการในอนาคต

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดหลังร้าวลงขา และจะช่วยให้ท่านเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการป้องกันและรักษาอาการให้ดียิ่งขึ้น

อายุ 30 ต้นๆก็มีโอกาสเป็นโรคนี้กันแล้ว

อาการปวดหลังบ่อยๆ และปวดร้าวลงไปที่ขา หรือร้าวลงไปถึงปลายเท้า มีอาการชาอ่อนแรงร่วมด้วยแล้วละก็ นี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

อายุมากขึ้นหมอนรองกระดูกจะเริ่มเสื่อมและอาจทำให้เนื้อเยื่ออ่อนส่วอนที่อยู่ในภายในหมอนรองกระดูกปลิ้นโผล่ออกมาแล้วไปกดทับเส้นประสาท จึงทำให้เกิดอาการปวดหลังชา อ่อนแรงหรือเจ็บบริเวณแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ

วิธีการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

โดยแต่ละวิธีมีผลลัพธ์และเหตุผลที่แตกต่างกันไปดังนี้:

  1. ทานยา: การใช้ยาเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เช่น ยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ หรือยาแก้ปวดเมื่อเป็นปัญหาเรื้อรัง การใช้ยาสามารถช่วยลดอาการปวดและอักเสบได้ชั่วคราว แต่ไม่สามารถแก้ไขสาเหตุของโรคได้
  2. ทำกายภาพบำบัด: การบำบัดด้วยกายภาพเป็นวิธีที่สำคัญในการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เช่น การเหยียดเป็นประจำ การออกกำลังกายทางกายภาพ การนวด และการฝึกหัวใจและปอด การบำบัดด้วยกายภาพช่วยลดอาการปวดและอักเสบได้ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก
  3. ฉีดยาสเตียรอยด์: การฉีดยาสเตียรอยด์เป็นวิธีที่ใช้ในกรณีที่การใช้ยาและการบำบัดด้วยกายภาพไม่ได้ผล การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในจุดที่เจ็บปวดบริเวณหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จะช่วยลดการอักเสบและบวมในส่วนที่เจ็บปวด ทำให้รู้สึกว่าบรรเทาของอาการปวดได้ดีขึ้น
  4. ผ่าตัด: การผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจะพิจารณาก็ต่อเมื่อการรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล หรือเมื่ออาการปวดเริ่มรุนแรงและมีความผิดปกติในระบบประสาท แต่วิธีการผ่าตัดนี้จะเป็นวิธีการสุดท้ายที่ใช้ในกรณีที่มีความจำเป็นจริงๆ เพราะเป็นการเข้าถึงภายในร่างกายโดยตรง อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน และอาจต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานขึ้นด้วย

    โดยอาจารย์แนะนำว่า ควรพยายามรักษาด้วยวิธีอื่นก่อนจะพิจารณาใช้วิธีการผ่าตัด เช่นการทานยา การทำกายภาพบำบัด และการฉีดยาสเตียรอยด์ โดยการใช้วิธีการรักษาเหล่านี้อาจช่วยแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องพบกับความเสี่ยงที่เกิดจากการผ่าตัดหรือการใช้ยาสเตียรอยด์เข้าไปในร่างกายโดยตรง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Kloss Wellness Clinic มี 3 สาขา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

BOOKING

 กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
กรุณาเลือก Promotions ที่คุณสนใจ
*** สงวนสิทธิ์ 1 คน / 1 สิทธิ์