ใครบอกว่าวิ่ง แล้วจะดีจริงเสมอไป?
การวิ่งเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายพื้นฐานที่ดีและง่ายที่สุด แถมยังเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย เรียกได้ว่าสุขภาพดีได้ก็ด้วยการวิ่งเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น การวิ่งเองก็มีวิธีที่ถูกและผิด ถ้าวิ่งผิดท่าทางหรือวิ่งไม่ถูกต้องตามหลัก ก็อาจเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งนอกจากการศึกษาเพิ่มเติมถึงหลักการวิ่งที่ถูกต้อง ในโพสนี้เองก็จะมาบอกถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นหากวิ่งผิดท่านั่นเอง
ปัญหาเกิดได้จากการวิ่งแบบผิดๆ
- Patellofemoral pain syndrome อาการปวดบริเวณหน้าลูกสะบ้าและรอบๆหัวเข่า เกิดจากการเสียดสี, งอ-เหยียดเข่าบ่อยๆ และลงน้ำหนักหน้าเข่าเยอะกว่าปกติ
- Achilles Tendinitis ปวด บวม แดง หลังส้นเท้า เกิดจากน่องตึง ไม่ยืดก่อนวิ่ง กระโดดสูงซ้ำๆ
- Iliotibial Band Syndrome อาการปวดเข่าด้านข้างฝั่งด้านนอกเป็นซ้ำๆ เกิดจากเวลาวิ่งงอเข่าและชอบบิดเข่าเข้าด้านใน
- Patellar tendinitis ปวดหน้าเข่า ใต้ลูกสะบ้าไม่ทั้งเข่า เกิดจากการกระโดดเยอะ ลงน้ำหนักผิด
- Shin Splints ปวดอักเสบหน้าแข้ง เกิดจากการวิ่งเยอะ และเกร็งเท้าเวลาวิ่ง
- Plantar Fasciitis (รองช้ำ) ปวดใต้ฝ่าเท้าและส้น โดยเฉพาะก้าวแรกของวัน เกิดจากเท้าแบน วิ่งบนพื้นแข็ง
เทคนิคที่ใช้หากเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น R.I.C.E
- R – Rest การหยุดพักเมื่อเกิดอาการ
- I – Ice กระประคบเย็น
- C – Compress คือ การพันกระชับบริเวณที่เจ็บให้เคลื่อนไหวน้อยที่สุด
- E – Elevation คือ การยกสูงกว่าระดับหัวใจ เพื่อลดอาการปวดบวม
การวิ่งเป็นกิจวัตรจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงจากปอดที่แข็งแรงขึ้น การไหลเวียนเลือดในร่างกายทำได้ดีขึ้น รวมถึงกล้ามเนื้อที่ได้ออกกำลังกายเป็นส่วนๆจากการวิ่ง ฉะนั้นหากทราบถึงการวิ่งที่ถูกต้อง ถูกวิธีแล้ว เหลือแค่การตื่นให้เช้าขึ้น ออกไปวิ่งให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เชื่อว่านอกจากร่างกายที่แข็งแรงแล้ว สุขภาพใจ ก็จะแข็งแรงเช่นเดียวกัน