ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันตัวร้ายที่เกิดจากการทานอาหารมื้ออร่อย แล้วไม่ถูกเผาผลาญจึงย้ายไปสะสมที่พุง แขน ขา ตับ และอันตรายถึงขั้นไตรกลีเซอไรด์อุดตันในหลอดเลือดหัวใจ
Triglyceride คืออะไร สำคัญอย่างไรกับร่างกาย
Triglyceride (ไตรกลีเซอไรด์) คือ ไขมันภายในร่างกายที่ตับ สังเคราะห์ขึ้น จากน้ำตาล ข้าว แป้ง เพื่อสำหรับใช้เป็นพลังงานสำรองเมื่อร่างกายขาดกลูโคส และยังเกิดขึ้นได้จากไขมันในอาหาร เช่น หมูสามชั้น น้ำมัน เนย กะทิ โดยเมื่อถูกเปลี่ยนเป็น Triglyceride แล้วจะถูกสะสมเพื่อรอใช้งาน ที่บริเวณเนื้อเยื่อไขมัน และตับ
ปัญหา คือ หากคุณรับประทานอาหารไขมันมากเกินจำเป็นที่ร่างกายต้องการ จะเกิดไตรกลีเซอไรด์สูง การสะสมที่เนื้อเยื่อและตับ จะทำให้คุณเสี่ยงเป็นโรคไขมันพอกตับ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็งเต้านม ซึ่งระดับปกติของ Triglyceride จะอยู่ที่ 50-150 mg/dL
ไตรกลีเซอรไรด์สูง! มีอาการอย่างไร
เมื่อมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง (High Triglycerides) ซึ่งเป็นภาวะที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงกว่า 150 mg/dL ส่งผลให้การไหลเวียนโลหิตไม่สะดวก เสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน หัวใจขาดเลือด ทำให้คุณเกิดอาการเจ็บหน้าอก หายใจไม่สะดวก คลื่นไส้ และอ่อนเพลีย หน้ามืด
สาเหตุไตรกลีเซอไรด์สูง เกิดจากอะไร
- รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงในปริมาณมาก
- ภาวะอ้วน หรือน้ำหนักเกิน
- ไม่ออกกำลังกาย ทำให้ไขมันไม่ถูกนำมาใช้เป็นพลังงาน
- ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
- ได้รับยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์, เอสโตรเจน, ยาคุมกำเนิด
- ความผิดปกติทางพันธุกรรม
ไตรกลีเซอไรด์สูง สัญญาณเตือนโรคร้าย
- โรคเบาหวาน หรือ โรคเบาหวานประเภท 2
- ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ (Metabolic Syndrome) ที่ส่งผลให้ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง อ้วนลงพุง น้ำหนักตัวเกิน เกิดขึ้นพร้อมกัน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
- ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ ( Hypothyroidism )
วิธีรักษาเมื่อไตรกลีเซอไรด์สูง ทำอย่างไร
- ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ อย่างน้อย 30 นาที
- ควบคุมอาหารประเภทน้ำตาล แป้ง อย่างพอดี ไม่ควรมากกว่าที่พลังงานได้รับต่อวัน คือ 1,600-1,800 กิโลแคลอรี่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ผัก ผลไม้ และรับประทานอาหารประเภทไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก ปลาที่อุดมไปด้วย โอเมก้า 3 หรือน้ำมันปลาก็ช่วยให้ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ได้
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันระดับไตรกลีเซอไรด์สูง