ไตมีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานและการรักษาสมดุลของร่างกาย เนื่องจากมีบทบาทที่ครอบคลุมหลายด้าน อีกทั้งไตทำหน้าที่กรองของเสียและสารพิษออกจากเลือด สร้างปัสสาวะเพื่อขับถ่ายออกจากร่างกาย และช่วยรักษาสมดุลของเกลือและน้ำในร่างกาย นอกจากนี้ ไตยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต ผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยควบคุมระดับแคลเซียมในเลือดอีกด้วย
วันนี้ Kloss Wellness Clinic เอาวิธีการดูแลไตง่าย เพียง 5 ข้อ รับรองทำตามแล้วสุขภาพไตดีแน่นอน
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
น้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปหรือคุมไม่ดี (เช่นในกรณีของโรคเบาหวาน) สามารถส่งผลเสียต่อไตและทำให้เกิดโรคไตได้ การมีน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการสะสมของน้ำตาลในหลอดเลือดฝอยที่อยู่ในไต ส่งผลให้เกิดการอักเสบและความเสียหายต่อไตใน ดังนั้นการควบคุมน้ำตาลในเลือดอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อไต
ควบคุมไขมันในเลือด
ไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง LDL (ไขมันไม่ดี) สามารถสะสมในหลอดเลือดและทำให้เกิดการอักเสบ รวมถึงทำให้หลอดเลือดตีบแข็งได้ ซึ่งจะจำกัดการไหลเวียนของเลือดไปยังไตและส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต หากเกิดขึ้นต่อเนื่องจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะไตวายเรื้อรัง
ควบคุมระดับความดัน
ความดันโลหิตสูงสามารถทำให้หลอดเลือดฝอยที่กรองของเสียในไตถูกทำลายหรือเสื่อมสภาพลง ไตต้องทำงานหนักขึ้นในการกรองเลือดและขจัดของเสีย ไตเสียสมดุลในการกรองโปรตีนออกจากเลือด ทำให้โปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะ หากควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการทำลายหลอดเลือดฝอยในไต
งดสูบบุหรี งดดื่มแอลกฮอล์
ทำให้หลอดเลือดตีบและลดการไหลเวียนของเลือดไปยังไต ส่งผลให้ไตได้รับออกซิเจนและสารอาหารน้อยลง ทำให้เซลล์ไตเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น เกิดการสะสมของสารพิษในร่างกาย ทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นในการกรองและขับสารพิษเหล่านี้ออกจากร่างกาย
การงดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์เป็นการดูแลสุขภาพไตที่ดี ช่วยลดภาระในการทำงานของไต ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไตเรื้อรังและปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของไตในระยะยาว
หลีกเลี่ยงการใช้ยาสมุนไพร
ยาสมุนไพรบางชนิดอาจมีสารที่เป็นพิษต่อไตโดยตรง เช่น อริสโตโลชิกแอซิด (Aristolochic acid) ซึ่งพบในพืชบางชนิด ทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้น หรืออาจเป็นพิษต่อไตหากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปหรือใช้ในระยะยาว