โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (sciatica) เป็นอาการที่เกิดจากการบวมของกล้ามเนื้อหรือของผิวหนังที่อยู่ใกล้กับสะโพกซึ่งทำให้เกิดการกดทับสะโพกประสาทที่ส่งผ่านมายังขา ซึ่งอาจทำให้เกิดปวดขา ปวดเข่า ปวดลำตัว และปวดท้องขึ้น โดยมักเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยกว่ากับผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี และสามารถรักษาได้ด้วยการรักษาทางกายภาพ การใช้ยา และการผ่าตัดในบางกรณี อาการ ปวดและชาที่ก้นร้าวไปยังขาทั้ง 2 ขา รู้สึกเจ็บเมื่อใช้มือกดบริเวณก้น ปวดหลังช่วงล่าง ความเสี่ยง เคลื่อนไหวร่างกายส่วนล่างผิดท่า ออกกำลังกายมากเกินไป วิ่งหรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวขาอย่างต่อเนื่อง นั่งเป็นเวลานาน ยกของหนัก เกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายส่วนล่าง หากท่านมีอาการควรตรวจ MRI LS-Spine เพราะโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท เป็นโรคที่แสดงอาการเหมือนโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเกือบ 100% และยังมีโอกาสที่โรคทั้ง 2 จะเกิดขึ้นพร้อมกัน MRI จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยให้แพทย์สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดเพื่อการรักษาที่ถูกต้องและแม่นยำ Kloss Clinic มีการบริการการกายภาพบำบัดและบุคลากรที่มีความสามารถ พร้อมดูแลคนไข้ที่ประสบปัญหาความเจ็บปวดจากกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ด้วยประสบการณ์ที่เปิดให้บริการมามากกว่า 5 ปี
6 พฤติกรรมเสี่ยง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ หากมีพฤติกรรมที่ผิด อาจทั้งที่รู้ตัวว่าทำผิดหรือไม่รู้ตัวด้วยก็ตาม ในบทความนี้จะมาบอกพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท พฤติกรรมเสี่ยงที่ทั้งหมด 6 อย่างดังนี้ มีน้ำหนักตัวมากเกินไป – ทำให้หลังแอ่นและกระดูกสันหลังส่วนล่างต้องรับน้ำหนักตลอดเวลา แบกของหนัก – ทำให้ต้องใช้กล้ามเนื้อหลังแทนกล้ามเนื้อขาและต้นขา กระดูกจึงบิดและเคลื่อนได้ ใช้งานผิดท่า – การก้มยกของโดยไม่ระวัง สูบบุหรี่จัด – เป็นปัจจัยสำคัญของการเสื่อมของหมอนรองกระดูก ขากการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อลีบ ฝ่อ – มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บต่อหมอนกระดูกได้มากขึ้น เสื่อมตามวัยและพันธุกรรม – พ่อแม่พี่น้องเป็นโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม มีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าคนอื่น พฤติกรรมที่เรามีอยู่ตลอดคือสาเหตุของโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการกิน การทำงาน หรือการนอนหลับ ทุกอย่างล้วนมีสาเหตุของโรคใดโรคนึงได้หากเราไม่ดูแลตัวเอง ฉะนั้นก่อนที่สายเกินไป หันมาดูแลตัวเองกันเถอะครับ หรือมาให้ที่ Kloss Clinic ดูแลก็ได้นะครับ