ตรวจระดับวิตามินต่างๆ

Facebook
Twitter

บทความเพิ่มเติม

ตรวจวิตามินในเลือดคืออะไร?

การตรวจวิตามิน คือการเจาะเลือดไปวัดระดับวิตามินและแร่ธาตุในร่างกาย ว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ วิตามินตัวไหนที่ยังขาดอยู่และอาจนำไปสู่อาการผิดปกติในร่างกาย

วิตามินและแร่ธาตุ หรือที่เรียกรวมกันว่า Micronutrients เป็นสารอาหารสำคัญต่อการเจริญเติบโต และการทำงานของร่างกาย โดยปกติเราจะได้รับวิตามินและสารอาหารจากพืชและเนื้อสัตว์ที่เรากิน

แต่หากเรากินอาหารไม่หลากหลาย หรือไม่ครบ 5 หมู่ ก็จะเกิดภาวะขาดวิตามิน จนอาจนำไปสู่อาการผิดปกติในที่สุด

ประโยชน์ของการตรวจวิตามิน

การตรวจวิตามินสามารถช่วยให้เราเลือกวิตามินหรืออาหารเสริมได้เหมาะสมขึ้น หลายครั้งที่ในชีวิตประจำวันเราไม่สามารถเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ได้ จนขาดวิตามินบางชนิด

การตรวจวิตามินจึงช่วยให้เราทราบได้จริงๆ ว่าร่างกายเราขาดวิตามินชนิดใดอยู่ จะได้เลือกเติมวิตามินหรืออาหารเสริมได้ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังอาจช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการผิดปกติที่มาสาเหตุมาจากวิตามินได้ด้วย เพราะอาการที่มีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินนั้นมีหลายอย่าง และอาการเหล่านั้นก็ยังเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วย

ใครควรตรวจวิตามิน

การขาดวิตามินแต่ละชนิดอาจมีอาการแสดงออกหลายอย่างมาก ดังนั้นหนึ่งในวิธีทีประเมินตัวเองเบื้องต้นอาจเป็นการสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ดังนี้

  • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองขาดวิตามินบี 12 (Vitamin B12) อาจมีอาการ อ่อนเพลีย เกิดความสับสน เกิดอาการชาตามมือและเท้า ปวดหัว หงุดหงิด โดยเฉพาะคนที่มีภาวะโลหิตจาง อาจมีแนวโน้มที่จะขาดวิตามินบี 12 มากกว่าผู้อื่น 
  • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองขาดวิตามินดี (Vitamin D) อาจป่วยง่าย อ่อนเพลีย ปวดหลัง ปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ อารมณ์ไม่ดี ผมร่วง 
  • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองขาดวิตามินเอ (Vitamin A) อาจมีอาการมองไม่ค่อยเห็นในเวลากลางคืน เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ลำคอ หน้าอก และช่องท้องง่ายขึ้น อาจทำให้ผิวแห้ง อาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ และอาจทำให้เกิดปัญหาเจริญเติบโตช้าในเด็ก 
  • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองขาดวิตามินอี (Vitamin E) อาจนำไปสู่อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการชาตามร่างกาย การมองเห็นแย่ลง และอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานด้อยลง 
  • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองขาดวิตามินซี (Vitamin C) อาจนำไปสู่ผิวไม่เรียบ ผิวแห้ง เล็บมีจุดหรือเส้นสีแดง ฟกช้ำง่าย แผลหายช้า กระดูกไม่แข็งแรง มีเลือดออกตามไรฟันหรือเหงือก และระบบภูม้คุ้มกันไม่แข็งแรง 
  • ผู้ที่กำลังจะกินวิตามินเสริม และอาหารเสริม หรือกินวิตามินและอาหารเสริมอยู่แล้วเป็นประจำ 
  • ผู้ที่มีความเครียดสูง วิถีชีวิตเร่งรีบ รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่
  • ผู้ที่มีปัญหาลำไส้ อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการดูดซึมได้ไม่ดี

……………………………………………………………………………………..

 

เวชศาสตร์ป้องกัน: ตรวจระดับแคลเซียมในเลือด

แคลเซียม (Calcium) เป็นแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับสุขภาพของร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการสร้างและรักษาระบบกระดูกและกระดูกอ่อน ๆ ในร่างกาย นอกจากนี้แคลเซียมยังมีบทบาทในการปรับควบคุมการหcontract กล้ามเนื้อ การทำงานของหัวใจ และกระบวนการแลกเปลี่ยนของเซลล์. การรักษาระดับแคลเซียมในร่างกายในเกณฑ์ปกติเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพต่าง ๆ อย่างเช่น โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) และภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือด.

ความสำคัญของการตรวจระดับแคลเซียมในเลือด

  • ป้องกันโรคกระดูกพรุน: การตรวจระดับแคลเซียมในเลือดสามารถช่วยคาดการณ์ความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน เนื่องจากความขาดแคลเซียมในร่างกายอาจทำให้กระดูกอ่อนละเลยและทำให้เกิดกระดูกพรุนได้ง่ายขึ้น. 
  • สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด: การรักษาระดับแคลเซียมในเลือดที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด แคลเซียมมีบทบาทในกระบวนการหcontract กล้ามเนื้อหัวใจและควบคุมการทำงานของหลอดเลือด. 
  • ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ: แคลเซียมมีบทบาทในการส่งสัญญาณประสาทและควบคุมการหด contract กล้ามเนื้อ รวมถึงการส่งสัญญาณสาระสำคัญไปยังเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย.

การตรวจระดับแคลเซียม

  • 1. การตรวจเลือกทางการแพทย์: การตรวจระดับแคลเซียมในเลือดสามารถทำได้ผ่านการตรวจเลือกทางการแพทย์ โดยการส่งตัวอย่างเลือดไปที่ห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบระดับแคลเซียมในเลือด แพทย์สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมหรือการใช้สารเสริมแคลเซียมเมื่อจำเป็น.
  • 2. การบำรุงสุขภาพโดยรวม: การรักษาระดับแคลเซียมในเกณฑ์ปกติเริ่มต้นจากการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมอย่างเพียงพอ รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ร่างกายดูแลแคลเซียมในเลือดได้อย่างเหมาะสม.
  • 3. การปรึกษาแพทย์: หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการดูแลรักษาระดับแคลเซียมในร่างกาย ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำและแผนการดูแลสุขภาพที่เหมาะกับคุณ.

การรักษาสุขภาพต้องเริ่มต้นที่การรักษาระดับแคลเซียมในร่างกายให้เหมาะสม โดยการตรวจระดับแคลเซียมในเลือดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของกระดูก ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด และส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Kloss Wellness Clinic มี 3 สาขา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

BOOKING

 กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
กรุณาเลือก Promotions ที่คุณสนใจ
*** สงวนสิทธิ์ 1 คน / 1 สิทธิ์